บทคัดย่อ :
การประเมินโครงการพัฒนางานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวิไลเกียรติอุปถัมภ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37 อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการใน 4 ด้าน คือ 1)ประเมินด้านบริบทของโครงการ (Context Evaluation) เกี่ยวกับความสอดคล้อง และความเหมาะสมของหลักการ วัตถุประสงค์ เป้าหมายของโครงการ 2)ประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ(Input Evaluation) เกี่ยวกับความเพียงพอ ความสามารถของบุคลากร ความเหมาะสม ความเพียงพอของสื่อและเครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ 3)ประเมินด้านกระบวนการดำเนินงานของโครงการ (Process Evaluation) เกี่ยวกับความคิดเห็นต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานตามที่กระทรวงศึกษาธิการ กำหนดไว้ 5 องค์ประกอบ คือ การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล การคัดกรองนักเรียน การส่งเสริมและพัฒนา การป้องกันช่วยเหลือและแก้ไข การส่งต่อ และ 4) การประเมินด้านผลผลิตของโครงการ (Product Evaluation) เกี่ยวกับผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียนตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและความสำเร็จของโครงการ โดยผู้ประเมินได้ประยุกต์ใช้รูปแบบ CIPP Model ในการประเมินโครงการ เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินในครั้งนี้ ใช้วิธีการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling Technique) ได้แก่ ผู้บริหาร จำนวน 3 คน ครูผู้ดำเนินโครงการ จำนวน 43 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน ในส่วนของนักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน ได้กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจากการเปิดตารางโดยใช้ตารางสำเร็จรูปของ Krejcie และMorgan (1970: 608-610) ประกอบด้วย นักเรียน จำนวน 248 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 248 รวมทั้งสิ้น 555 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามความคิดเห็นต่อการดำเนินงานตามโครงการพัฒนางานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวิไลเกียรติอุปถัมภ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37 อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) และแบบปลายเปิด สถิติที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ การแจกแจงความถี่, ค่าร้อยละ, ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน( S.D.) ผลการประเมินพบว่า
1. ด้านบริบท (Context Evaluation) พบว่า มีผลการประเมินโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมิน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน
2. ด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) พบว่า มีผลการประเมินโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมิน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน
3. ด้านกระบวนการ (Process Evaluation) พบว่า มีผลการประเมินโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดและผลการประเมินตามองค์ประกอบทั้ง 5 ด้าน ได้แก่
3.1 ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล พบว่า ผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด
3.2 ด้านการคัดกรองนักเรียน พบว่า ผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด
3.3 ด้านการส่งเสริมและพัฒนา พบว่า ผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด
3.4 ด้านการป้องกันช่วยเหลือและแก้ไข พบว่า ผลการประเมินอยู่ในระดับมาก
3.5 ด้านการส่งต่อ พบว่า ผลการประเมินอยู่ในระดับมาก
ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมิน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4. ด้านผลผลิต (Product Evaluation) พบว่า มีผลการประเมินโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมิน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการดำเนินงานโครงการพัฒนางานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวิไลเกียรติอุปถัมภ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37 อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ประจำปีการศึกษา 2559 นั้นประสบผลสำเร็จเป็นโครงการที่ตอบสนองต่อนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ และตรงกับความต้องการของชุมชน ทั้งผู้บริหาร ครู ผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้ความร่วมมือร่วมกับทุกภาคีเครือข่าย โดยภาพรวมของความพึงพอใจต่อผลการดำเนินโครงการพัฒนางานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวิไลเกียรติอุปถัมภ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37 อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ อยู่ในระดับมากที่สุดและโรงเรียนวิไลเกียรติอุปถัมภ์ ได้มีผลงานด้านการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่เป็นเชิงประจักษ์
|